ลุ้นดาวซัลโว คนไหนกันจะไปมั่นใจว่า อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้เฝ้าประตูชาวบราซิเลียน จะเปลี่ยนเป็นวีรบุรุษให้กับหงส์แดง
ลุ้นดาวซัลโว คนไหนกันจะไปมั่นใจว่า อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้เฝ้าประตูชาวบราซิเลียน จะเปลี่ยนเป็นวีรบุรุษให้กับหงส์แดง ภายหลังที่เขาขึ้นมาโหม่งประตูชัยในตอนทดเจ็บนาทีในที่สุด ส่งให้ “ลิเวอร์พูล” บุกเฉือน เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 เดือนพฤษภาคมก่อนหน้าที่ผ่านมา
ความมีชัยของ “เดอะ เร้ดส์” เป็นการเปิดช่องสว่างให้กับพวกเขาสำหรับเพื่อการลุ้นทำอันดับท็อปโฟร์ เนื่องจากเดี๋ยวนี้กลุ่มของผู้จัดการทีมเจอร์เก้น คล็อปป์ มีแต้มตามหลัง เชลซี ทีมอันดับ 4 เพียงแต่ 1 คะแนนเพียงแค่นั้น แล้วก็เหลือการแข่งขันอีก 2 เกมซึ่งอะไรๆก็สามารถเกิดขึ้นได้
นอกเหนือจากนั้นแนวทางการทำประตูของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในแมตช์นี้ ส่งให้เขามียอดตะบันตาข่ายคู่ต่อสู้ในลีกไปแล้ว 22 ประตูเท่ากับ แฮร์รี่ เคน เพราะฉะนั้นการลุ้นครอบครองรางวัลรองเท้าทองคำ หรือ “ดาวซัลโซสูงสุด” ในฤดูกาลนี้ยังคงเข้มข้นเช่นเดียวกัน
อลีสซงวีรบุรุษโคตรเพชฌฆาต แฟนบอลอาจได้โอกาสได้มองเห็นผู้เฝ้าประตูขึ้นมาทำแต้มกันหลายทีแล้ว แต่ว่าสำหรับสาวก “เดอะ ค็อป” นี่เป็นคราวแรกนายทวารของพวกเขามีชื่อบนสกอร์กระดานในฐานะผู้กระทำประตูเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์สมาคม !
เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า อลีสซงเบ็คเกอร์ เป็นนายทวารจอมหนึบ แล้วก็ชอบช่วยทีมเซฟลูกยากๆได้หลายต่อหลายครั้ง และก็ในแมตช์นี้ภายหลังที่เสียประตูแรก เขาก็ได้โอกาสคุ้มครองจังหวะสำคัญให้กลุ่มทำให้ “ลิเวอร์พูลไม่ตกเป็นรอง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน
อย่างไรก็แล้วแต่สกอร์ 1-1 ยังไม่พอสำหรับกลุ่มที่กำลังลุ้นทำอันดับท็อปโฟร์ โดยเหตุนี้ทำให้ อลีสซงตกลงใจขึ้นไปหน้าประตูในเวลาที่สมาพันธ์ได้ลูกเตะมุมในช่วงต่อเวลาพิเศษเจ็บนาทีท้ายที่สุด โดยหมายมั่นปั้นมือว่าจะสร้างผลดีจากจังหวะนี้ให้ได้
แน่ๆว่าในตอนนั้นแฟนบอลหงส์แดง เป็นจำนวนมากคงจะบ่นหรือไม่ก็บางทีอาจสบถเวลาที่มองเห็น อลีสซงวิ่งเข้ามาอยู่ในกรอบจุดโทษของ “เดอะ แบ็กกี้ส์” เพราะว่าถ้าเกิดจังหวะนี้เจ้าของบ้านตัดบอลได้ จากที่ทีมจะได้แต้ม ก็มีสิทธิ์ไม่ได้อะไรเลยเนื่องจากโดนสวนกลับ และก็นายทวารของพวกเขาไม่ได้อยู่เฝ้าเสาประตู
แม้กระนั้นราวกับสรวงสวรรค์ได้ตีเส้นโชคชะตาเอาไว้แล้ว เพราะเหตุว่าคนใดจะไปมีความคิดว่าจังหวะนั้น อลีสซงยืนอยู่เตียนโล่งๆไม่มีคู่แข่งขันมาประกบ ระหว่างที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็เปิดลูกเตะมุมแม่นราวกับจับวาง พุ่งเข้าหัว โกลเลือดแซมบ้า ที่สลัดหัวจ่ายบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายอย่างน่าเกินจริง
ลุ้นดาวซัลโว ถ้าหากว่าจบฤดูกาลนี้ แล้วหงส์แดงสามารถคว้าโควตาไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้ แน่ๆว่าประตูของอลีสซง เป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้พวกเขาได้ได้โอกาสฝ่าศึกฟุตบอลถ้วยใบโตของยุโรปในช่วงฤดูกาลหน้า บ้านผลบอลภาษาไทย
ความมีชัยของ “เดอะ เร้ดส์” เป็นการเปิดช่องสว่างให้กับพวกเขา
ลุ้นดาวซัลโว ติอาโก้ ฟอร์มพัฒนาขึ้นในช่วงท้ายฤดูกาล แมตช์นี้ตอนต้นเกมหงส์แดงทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก แถมพวกเขายังจำต้องกลายเป็นรอง 0-1 จากการเล่นเกมรับที่น่าผิดหวัง อย่างไรก็ดีต่อจากนั้นไม่นาน “ลิเวอร์พูลจะต้องขอบคุณมากการเล่นเร็วของ ฟาบินโญ่ ที่ส่งผลให้เกิดประตูตีเสมอ 1-1 ของ โมฮาเหม็ดซาลาห์
อย่างไรก็ดีหนึ่งในนักฟุตบอลที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้ “เดอะ เร้ดส์” ทำผลงานเหนือกว่า เวสต์บรอมฯ ตั้งแต่แมื่อที่พวกเขามีสกอร์ด้อยกว่า ก็คือ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ด้วยเหตุว่านักฟุตบอลมีส่วนสำคัญสำหรับเพื่อการคุมจังหวะในแผงกองกลาง แล้วก็บีบคั้นกระทั่งมิดฟิลด์เจ้าของบ้านทำอะไรไม่ได้เลย
กองกลางชาวสแปนิช ทำผลงานได้อย่างเด่นทั้งยังการหาพื้นที่ว่างในแผงกองกลางแม้ว่า แซม อัลลาร์ไดซ์ ที่ปรึกษาเวสต์บรอมฯ เน้นการเล่นแบบอุดแหลก ช่วงเวลาเดียวกันเขายังผ่านบอลได้อย่างเที่ยงตรงหลายทีให้เพื่อนฝูงร่วมทีม, ลากบอลหลบคู่แข่งขันได้ 100 เปอร์เซนต์, สร้างโอกาสได้ 5 ครั้ง และก็สัมผัสบอล 120 ครั้ง
ด้วยเหตุผลดังกล่าวคงจะไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะกล่าวชมเชยผลงานของ ติอาโก้ ที่บอกให้เห็นในแมตช์นี้ เนื่องจากว่าเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมบุกในเวลาเดียวกันการเล่นเกมรับก็ไม่มีข้อบกพร่อง โชคร้ายที่ฟอร์มของเจ้าตัวมาเข้าฝักในตอนโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
แม้มองดูในด้านบวกนี่บางทีอาจเป็นสัญญาณสำคัญสำหรับ ติอาโก้ ซึ่งสามารถปรับนิสัยกับเกมพรีเมียร์ลีกได้แล้ว รวมทั้งในช่วงฤดูกาลหน้าสาวก “เดอะ ค็อป” จะได้มองเห็นฟอร์มที่จริงจริงของเขา
วีเออาร์ช่วยกลับเหตุการณ์หงส์แดง อันที่จริงแล้วเหตุการณ์ของ ลิเวอร์พูลบางทีก็อาจจะไม่จบแบบงี้ถ้าหากจังหวะที่ ไค บาร์ตลี่ย์ จ่ายบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้เจ้าของบ้านได้ประตู แม้กระนั้นโชคร้ายที่จังหวะนั้น “วีเออาร์” เข้ามาช่วย “เดอะ เร้ดส์” อย่างแท้จริง
สำหรับประตูดังที่กล่าวมาแล้วเกิดขึ้นในจังหวะเตะมุม และก็เป็น บาร์ตลี่ย์ ที่สัมผัสบอลคนท้ายที่สุดก่อนที่จะมันจะเข้าไปนอนกองอยู่ในตาข่าย แม้กระนั้นโชคร้ายที่ ไมค์ ดีน ผู้ตัดสินได้เช็กกับวีเออาร์แล้ว และไม่ให้ประตูเพราะว่า แมตต์ ฟิลลิปส์ ไปยืนขวางการเล่นของอลีสซง
อันที่จริงแล้วถ้าหากมองดูโดยประมาณผู้คนจำนวนมากก็ยังงงว่าเพราะอะไรประตูที่ บาร์ตลี่ย์ ทำถึงโดนยึดไป แม้ว่ามองดูทุกมุมเจ้าตัวก็ไม่ได้ล้ำหน้าหรือทำฟาวล์ แต่ว่าเมื่อพินิจอย่างละเอียดลออ ในจังหวะที่ ฟิลลิปส์ ไปยืนเบื้องหน้า อลีสซงนับว่ามีส่วนกับเกม ด้วยเหตุว่าทำให้โกล์ “ลิเวอร์พูลเสียสมาธิ นั่นก็เลยเป็นเหตุผลที่ให้ เวสต์บรอม ไม่ได้ประตูนี้
กระนั้นถ้าหากมองดูแบบเป็นกลางไม่ได้เข้าข้างฝ้ายข้างใดข้างหนึ่ง จังหวะที่ ฟิลลิปส์ ยืนอยู่ข้างหน้า อลีสซงแทบจะไม่มีส่วนกับเกมใดๆก็ตามทั้งปวง แล้วก็ถ้าเกิดจะเป็นการรบกวนโกล์ก็อาจจะเป็นเพราะว่าเขาดันไปยืนบังรัศมีการมองมองเห็นของ นายด่านชาวบราซิเลียน เพียงแค่นั้น
เนื่องจากว่าหากว่าไม่มี ฟิลลิปส์ ยืนทำลายจังหวะอย่างนั้น อลีสซงอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีช่องทางพุ่งไปปัดลูกยิงของ บาร์ตลี่ย์ ได้ทันก็ได้ คนใดกันแน่จะไปทราบ !!!
ลุ้นรองเท้าทองคำเข้มข้น ประตูของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ที่ซัดเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในนาทีที่ 33 ส่งให้เขาตะบันตาข่ายในเกมพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 22 ประตูเท่ากับ แฮร์รี่ เคน ศูนย์หน้า “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
แมตช์นี้จะว่าไปแล้ว “บังโม” ไม่ค่อยได้โอกาสทำแต้มเท่าไรนักในครึ่งแรก แม้กระนั้นด้วยการติดต่อประสานงานอย่างดีเยี่ยมระหว่าง ซาลาห์กับ ซาดิโอ มาเน่ นำมาซึ่งการทำให้ “ลิเวอร์พูลได้ประตูตีเสมอที่สุดยอดจากปลายสตั๊ดของ “คิง ออฟ อียิปต์”
สำหรับประตูดังที่กล่าวมาแล้วนอกเหนือจากที่จะเป็นแรงดลใจทำให้ ลิเวอร์พูลพลิกกลับมาชนะได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษบาดเจ็บจากการโหม่งของ อลีสซงเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นยังเป็นประตูที่ทำให้ ซาลาห์ ทำสถิติจ่ายบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายเท่ากับ เคน ทำให้ทั้งสองรั้งอันดับ 1 ดาวซัลโวลีกณ ตอนนี้
ในตอนที่อันดับ 2, 3 และก็ 4 เป็นของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ผู้นำกองทัพแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (18) , ซน ฮึง-มิน ศูนย์หน้าสเปอร์ส (17) รวมทั้ง โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน แนวรุกเจ้าเวหา เอฟเวอร์ตัน (16) เป็นลำดับ
เพราะฉะนั้นในตอน 2 แมตช์ท้ายที่สุดทั้งผองที่เอ่ยชื่อออกมาบางทีอาจยังมีสิทธิ์ที่จะทำแต้มเพื่อขึ้นไปเอารางวัลดาวซัลโวสูงสุดในฤดูกาลนี้ได้ตามทฤษฏี แต่ว่า ซาลาห์ กับ เคน ค่อนจะมีภาษีเหนือกว่าคนอื่นด้วยเหตุนี้คงไม่ผิดหากจะพูดว่า “โกลเด้น บูท” เหลือม้า 2 ตัวต่อสู้แย่งชิงกันเพียงแค่นั้น
ท็อปโฟร์เปิดกว้างสำหรับ “ลิเวอร์พูลย้อนไปตอนม.ย.ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา สาวก “เดอะ ค็อป” ค่อนจะทำใจได้แล้วว่าคงมองไม่เห็นกลุ่มรักได้ไปโลดแล่นในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า ภายหลังที่พวกเขาทำสกอร์หลุดมือในแมตช์ที่เจอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด รวมทั้ง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
นอกเหนือจากนั้นตั้งแต่แมื่อที่ไปสู่ปีฉลู หงส์แดง จำต้องพบกับเหตุการณ์เหนื่อยยากเนื่องจากพวกเขาไม่อาจจะเอาชนะทีมอย่าง ฟูแล่ม, เบิร์นลี่ย์, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน รวมถึง ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้ ทำให้จังหวะสำหรับเพื่อการทำชั้นขึ้นไปติดท็อปโฟร์ค่อนจะยากอย่างมาก
อย่างไรก็แล้วแต่ถ้ามองดูแบบไม่มีอคติผลงานของ “ลิเวอร์พูลค่อยๆ ดียิ่งขึ้นแบบเฉยๆเพราะเหตุว่า 8 เกมหลังสุดในลีก กลุ่มของผู้จัดการทีมฟุตบอลพบร์เก้น คล็อปป์ ไม่แพ้ผู้ใดกันแน่เลย และก็เก็บความมีชัยได้ 6 แมตช์ โดยเกมที่สำคัญมากๆก็คือการบุกตี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งสร้างขวัญแรงใจให้กับพวกเขาเพิ่มเป็นสองเท่า
ในแมตช์นี้ถึงแม้ว่ากลุ่มจะได้ชัยชนะแบบมีดวงเข้ามาเกี่ยวโยงก็ตาม แม้กระนั้นโน่นไม่มีความสำคัญเพราะเหตุว่านี้เป็น 3 แต้มที่พวกเขาอยากได้ และก็ทำให้เหตุการณ์สำหรับการลุ้นท็อปโฟร์เปิดกว้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าช่วงนี้ ลิเวอร์พูลรั้งอยู่อันดับ 5 มี 63 คะแนนตามหลัง เชลซี ทีมอันดับ 4 เพียงแค่แต้มเดียวแค่นั้น
ลุ้นดาวซัลโว แถมโปรแกรมนัดหมายถัดไปดูราวกับว่าช่างเปิดโอกาสอย่างยิ่ง เพราะเหตุว่า เชลซี มีคิวเจอ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งจะปราบ “สิงห์บลูส์” ครอบครองแชมป์เอฟเอ คัพ ด้วยเหตุนั้นถ้ากลุ่มของโธมัส ทูเคิ่ล ดันเกิดสะดุดอีกแมตช์ งานนี้ช่องทางจะหวนมาอยู่ในมือของ หงส์แดง ในทันที บิ๊กแซมควันออกหู